มหาชะนีตะลุยคิวชู EP.3 การเดินทางสู่เมืองท่านางาซากิ

EP ที่แล้ว เราจบด้วยการแช่ออนเซนที่โรงแรมและเข้านอนในโรงแรมที่คุมาโมโตะ โดยวันนี้จะเป็นการเดินทางจากคุมาโมโตะ ออกสู่เมืองท่านางาซากิ ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่เราซื้อตั๋ว JR Pass เอาไว้ นั่งได้เลยเต็มที่

 

ติดตาม EP ที่แล้วภาคมิตรภาพในร้านกินดื่มชั้นใต้ดิน >> https://www.somanyreviews.com/2024/09/25/japan-kyushu-ep2/

เราเดินทางออกจากโรงแรม เข้าสู่ถนนที่เหมือนเป็นอเวนิวย่านร้านค้า ด้วยโรงแรมราคานี้ (คืนละ 1800 บาท) ที่ญี่ปุ่นไม่มีบริการอาหารเช้า เราจึงหาร้านอาหารเช้าเพื่อนั่งกิน ซึ่งก็เจอร้านนี้แหละครับ เปิดเช้าอยู่ร้านเดียว เลยแวะเข้าไปนั่งกินเสียหน่อย โดยที่ร้านนี้ชื่อว่า มัตสียะ มีเป็นพันสาขาทั่วประเทศญี่ปุ่น อย่างสาขานี้ เปิดตี 5 ปิด ตี 3 บางสาขาก็เปิด 24 ชั่วโมง เป็นร้านประเภทแดกด่วนของญี่ปุ่น กิน ๆ ให้อิ่ม ๆ แล้วเดินออก

เจอป้ายข้าวแกงกะหรี่ไก่เป็นชิ้นหนา ๆ เลยตัดสินใจเอาอันนี้แหละ เป็นเมนูข้าวแกงกะหรี่ไก่ตุ๋น ราคาประมาณชุดละ 177 บาท = 1 อิ่ม รวมน้ำ

การสั่งก็เข้าไปกดตู้ เลือกเมนู ชำระเงิน แล้วก็เสียบธนบัตร รอเงินทอน ได้บัตรคิวมารอเขาเรียกแล้วเดินไปหยิบ ในส่วนของข้าว ถ้าอยากกินให้อิ่ม ๆ สามารถเลือกข้าวไซซ์ใหญ่ได้โดยไม่ต้องเพิ่มเงิน

ถึงคิว 107 เขาเรียกแล้วก็เดินไปหยิบถาด แล้วก็เอามากิน อร่อยครับ คุ้ม ข้าวเยอะ นี่ผมสั่งข้าวปกตินะ สามารถเพิ่มปริมาณข้าวได้ ไก่ก็เยอะ ร้านมีแก้วให้กดน้ำ แต่ผมมีน้ำอยู่แล้ว

กินอิ่มแล้วเราก็เดินทางกันต่อเพื่อไปสถานี JR ของคุมาโมโตะ

วันนี้ได้นั่งรถรางโบราณอีกแล้วครับ ราคาไม่แพง อยู่คู่เมือง คุมาโมโตะ

ร้านขายครัวซองท์ ขนมปัง ที่สถานีคุมาโมโตะ คนซื้อเยอะเลย น่ากิน

บ๊ายบายยย คุมะมงนะ ไว้มาใหม่นะ

เตรียมตัวออกเดินทางได้ 3 …2 ….1 เตร๊งงงงงงง เต้ง เต่ง เต่ง เตร๊งงงงงง

ดู GPS ในกูเกิ้ลแมพ เหมือนว่าผมจะลงสถานีผิด นั่นคือหลงทางนั่นเอง แต่ดีหน่อย ที่หลงทางที่ญี่ปุ่น ถ้ามีบัตร JR Pass มันก็พอไปไหนมาไหนได้ แล้วรูทเส้นทางเขาก็เชื่อมถึงกัน ไม่ต้องรอแต่รถความเร็วสูง

หลงออกมาจากสถานีอะไรไม่รู้ เห็นมีพ่อค้าขายของประเภทขนมปังหมูทอด มีลุง ๆ ป้า ๆ มามุงกันเยอะเลย เราก็เดาว่า เพราะเขาออกรายการทีวีหรือเปล่า เราก็เลยลองซื้อกินมั่ง

ไหน ๆ ก็หลงละ คือถ้าเราหลงแล้วเราให้ Google Map ช่วยนำทางใหม่ มันก็จะหาเส้นทางอื่นที่เร็วที่สุด เช่นรถไฟ Local ขบวนอื่น อะไรงี้ ไหน ๆ ก็หลงแล้ว ก็ตาม GPS มาเลยละกัน ก็เลยออกจากสถานี

นั่งรถรถไฟสักพัก หาข้อมูล ตอนนี้ผมอยู่เมือง ซากะ(Saga) ตรงไหนสักแห่ง นั่งรอรถไฟสักพักนึง แล้วก็รู้ว่า รอผิดฝั่ง

พอรู้ตัวว่ารอผิดฝั่ง ผมก็เลยมุดไปฝั่งตรงข้าม จะได้ไปถูกทางเสียที

แล้วผมก็ได้ขึ้นรถไฟแล้ว ตามที่กูเกิ้ลแมพมันบอกให้ผมขึ้น

นั่งกินแซนวิซหมูทอดในรถไฟ ที่ญี่ปุ่นรถไฟขบวนไกล ๆ นั่งกินอาหารได้ครับ มักจะมีคนซื้อข้าวกล่องตามสถานีไปนั่งกินบนรถไฟขณะเดินทาง แซนวิซหมูทอดอร่อย ขนมปังนุ่ม ผักกะหล่ำซอยกรอบ มีซอสวูสเตอร์ซอส และมัสตาร์ดเล็กน้อย

เย่ และแล้วผมก็มาถึงจุดหมายแล้วครับที่เมืองนางาซากิ

ที่สถานีรถไฟที่ญี่ปุ่น มักจะเป็นชุมทางที่มีของกิน ของฝากให้เลือกซื้อมากมาย ผมมาถึงที่นี่ประมาณบ่ายโมงครึ่ง เลยนั่งชิลดื่มเสียหน่อย กว่าจะมาถึงนางาซิกิ จากคุมาโมโตะ รวมที่หลงด้วย ก็ใช้เวลาเกือบ 3 ชั่วโมง

ร้านชื่อ 台湾水餃LAOLEE 老李 เป็นร้านอาหารไต้หวันที่ขายที่เมืองนางาซากิ มีอยู่ประมาณ 6-7 สาขามั้ง เกือบทั้งหมดอยู่ที่เมืองนางาซากิ มีอยู่ที่โตเกียวที่นึง ผมกินที่สถานีรถไฟ ตามนี้ >> https://maps.app.goo.gl/FmveF9Nn2Fc9C1A29

ไม่มีอะไรมาก แวะนั่งชิลกินเกี๊ยวต้ม กินเต้าหู้ทอดกับเบียร์เย็น ๆ ให้หายเหนื่อยกับการเดินทาง หมดไปประมาณ 500 บาท

ออกมาด้านนอกแล้ว เช็คอินกับสถานีรถไฟนางาซากิเสียหน่อย

เดินข้ามถนนจากสถานีรถไฟ ก็ถึงโรงแรมที่ผมจองไว้แล้วครับ

โรงแรมคืนละ 1600 บาทโดยประมาณ ผมจองทั้งหมด 2 คืนครับ ทำเลอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ แผนที่ >> https://maps.app.goo.gl/2hPiCTYPGf16Yiwv5

ที่เมืองนางาซากิ จะมีเกาะเรือรบครับ หรือเกาะกุนกันชิมะ หรือที่เรียกว่าเกาะฮาชิมะ ที่มีหนังเรื่อง ฮาชิมะ โปรเจกต์ รวมไปถึงเป็นเกาะที่กองถ่ายหนังเรื่อง Battle Royal  ใช้ถ่ายทำครับ ประเด็นคือ ผมพยายามจะจองสถานที่นี้จากประเทศไทย แต่จองไม่ได้ครับ ไม่รู้เป็นที่ระบบเน็ตเวิร์คหรืออะไร รวมไปถึงกำแพงด้านภาษา จนถอดใจ ไม่ไปก็ได้ แต่พอลงมาที่ล็อบบี้โรงแรม เห็นโบร์ชัวร์วางอยู่ เราก็เลยเดินไปถามโรงแรมว่า มีบริการให้ไหม เราจ่ายเงิน โรงแรมบอกว่าไม่มี คุณต้องจองเอง เป็นกิจการของเอกชน ผมเลยบอกไปว่า ผมพยายามแล้ว ผมจองไม่ได้ครับ ทางโรงแรมเห็นแบบนั้นเลยจองให้ เลยมีโอกาสได้ไปเที่ยว

โรงแรมพยายามจองให้ สุดท้ายโรงแรมบอกว่า ต้องใช้เครือข่ายที่ประเทศญี่ปุ่นจองถึงจะได้ ถ้าจองจากต่างประเทศอาจจะไม่สำเร็จ

สุดท้ายก็ได้ไปสมใจครับ เจอกันที่ท่าเรือนางาซากิตอนเช้า ๆ จองเสร็จเรียบร้อย ไปจ่ายเงินตรงนู้น

ออกจากโรงแรมก็เดิน ๆ ไปเที่ยว ตั้งใจจะไปที่สะพานแว่นตามากาเนะบาชิ Meganebashi Brigde >> https://maps.app.goo.gl/E71nSYeiw6CujueDA

ภาษาอังกฤษใช้ชื่อสะพานแว่นตา spectacles แทนที่จะใช้คำว่า glasses แต่ความหมายคือแว่นตาเหมือนกัน แต่เป็นคำเก่า

ถึงสะพานแว่นตาแล้วครับ เช็คอินเสียหน่อย เหมือนแว่นตาไหมครับ จริง ๆ เงาที่สะท้อนกับความโค้งครึ่งวงกลมนั่นจะทำให้เห็นเป็นแว่นตา ประมาณนี้

แถว ๆ สะพานแว่นตาก็มีสถานที่ให้ซื้อขนมบ้างนิดหน่อย ขนมที่ขึ้นชื่อของนางาซากิ คือเค้กไข่สไตล์โปรตุเกส สีเหลือง ๆ ชื่อว่า Castella แต่ผมจะกินแบบไอศครีม

มีแต่ของน่ากิน คนชอบพวกเค้กหอม ๆ ไข่น่าจะชอบมาก

เห็นป้าย Don’t Eat ไหม อันนั้นคือด้านหลัง ด้านหน้าเป็นตัวการ์ตูนน่ารักมาก ๆ ผมถ่ายรูปแต่ด้านหลังมา โคตรเด๋อ พอกินหมดแล้วถึงได้เห็นว่าข้างหน้าเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก ร้านชื่อ New York dō แผนที่ >> https://maps.app.goo.gl/mpXonsWotQ7cmmLD6

ร้านนี้ร้านอะไรไม่รู้ เห็นคนรอคิวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด ตอนแรกผมจะไปรอคิวด้วย แต่ผม งง ๆ เลยช่างมัน ไว้ถ้ามีโอกาสคราวหน้ามาใหม่ ผมจะลองดู แต่ผมเดาว่าน่าจะเด็ดมาก มีเกือบ 4 พันรีวิวบนกูเกิ้ลแมพ คะแนน 4.2 ดาว ใครมาเที่ยวนางาซากิ แล้วผมฝากช่วยชิมแทนผมหน่อย แล้วมาบอกผมด้วยนะว่ามันเป็นไง >> https://maps.app.goo.gl/QaPGudYkpAQnuxE67

เดินทางไปจุดชมวิวที่เมืองนางาซากิ โดยจุดชมวิว ท็อป 3 อันดับจุดชมวิวตอนกลางคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งจะมี 3 แห่งคือ ฮาโตดาเตะ โกเบ และ นางาซากิ

ด้านหน้าจุดชมวิวจะเป็นลักษณะเหมือนศาลเจ้า

มาถึงจุดชมวิวแล้วครับ ขึ้นไปด้วยเคเบิ้ลคาร์ ถ้าอยู่ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงค่ำ ก็จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

แต่ปัญหาคือ ทางสถานที่แจ้งว่า สภาพอากาศมีแต่หมอก ขึ้นไปจะมองไม่เห็นอะไร จึงไม่แนะนำให้ขึ้นไปครับ อด

เซ็งมาก เลยย้อนกลับไปย่านไชน่าทาวน์ของเมืองนางาซากิ ซึ่งเป็นไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เพราะจุดตรงนี้เป็นเมืองท่าครับ

เย็นแล้วหาอะไรกินกันดีกว่า อาหารที่แนะนำของเมืองนางาซากิคือ นางาซากิจัมปง และ ซาระอุด้งครับ โดยได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน

อาหารจีนย่านไชน่าทาวน์มีเยอะมาก เพราะว่าเป็นไชน่าทาวน์นั่นเอง แหะ ๆ ผมเลือกเข้าร้านนี้ครับ 龍勝楼 >> https://maps.app.goo.gl/7cRXDVzW4nr56HoW6

เมนูเป็นแบบหน้าจอ กด ๆ สั่ง ก็ดี ไม่ต้องมีพนักงานมายืนกดดัน ผมสั่ง ซาระอุด้ง (ขวามือ) 

มาเสิร์ฟแล้วครับ อร่อยดี ได้รับอิทธิพลจากอาหารฮกเกี้ยน ถ้าถามผมนะ มันคือราดหน้าหมี่กรอบทะเล ผักเยอะ ๆ นี่แหละ อร่อย เส้นดูแกร็น ๆ กว่า ไม่ค่อยฟูมาก กินแล้วกรอบ ๆ แน่น ๆ

ลองสั่งไข่เยี่ยวม้า เพราะอยากรู้ว่าถ้ากินไข่เยี่ยวม้าที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราเป็นยังไง ซึ่งก็ดีครับ แต่มันก็คือไข่เยี่ยวม้าแหละ ข้อดีคือไม่เหม็นสาป กินที่บ้านเราต้องลุ้น บางทีเจอกลิ่นหึ่ง ๆ แอมโมเนีย

ส่วนตัวนี้เหมือนบ้านเราครับ ไส้ข้างในเป็นถั่วเหลืองหวาน ๆ เป็นแป้งข้าวเหนียวทอดคลุกงา ก็อร่อย แต่แพงมาก ถ้าเทียบกับบ้านเราอะนะ 

บรรยากาศร้านคนเยอะดีครับ

ออกมาจากไชน่าทาวน์ ผมก็มาเดินชมไนท์ไลฟ์ของนางาซากิ ซึ่งต้องบอกว่า “แทบไม่มีอะไรเลยครับ” เมืองเขาเงียบสงบมาก ๆ ไปญี่ปุ่นมาแล้วก็หลายเมือง นางาซากิเงียบมาก ไม่คึกคักเลย กิจกรรมยามราตรีไม่มีอะไรน่าสนใจถ้าเทียบกับเมืองอื่น ๆ

เดิน ๆ เที่ยวตะลอนในเมืองนางาซากิ เงียบมาก ไม่มีอะไรน่าสนใจ เลยกลับที่พักดีกว่า

ไปเล่นตู้หยอดเหรียญเล่น ๆ คือถ้าเรากดแล้วมันหยุดที่ก้านเหลือง ๆ ได้ ก้านเหลือง ๆ มันจะพับออก ลุ้นให้ของที่อยู่ด้านบนหล่นลงมา แล้วปรากฎว่า ผมใช้ 1 เหรียญ ไปโดนก้านเหลืองพอดี ได้บะหมี่กึ่งมาทีเดียว 7 กระป๋อง สุดท้ายมันก็กลายเป็นภาระการเดินทาง 555+

ซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อขึ้นไปที่พัก ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยยามค่ำคืนที่นางาซากิ

ที่โรงแรมไม่มีน้ำขวดให้ แต่มีน้ำแข็งให้พร้อมแก้วที่ห้องข้างลิฟท์คล้าย ๆ ห้องทิ้งขยะบ้านเราอะ แล้วก็เอาไปกรอกน้ำก็อกในห้องน้ำดื่ม น้ำก็อกเขากินได้ แต่ผมก็ซื้อน้ำกินอยู่ดี

ไม่ง่วง ลงมาเล่นตู้สล็อตนิดหน่อย เล่นยังไงก็ชนะมันไม่ได้หรอก เล่นขำ ๆ แก้เบื่อ

กลับขึ้นโรงแรมไปกินบะหมี่กึ่งฯที่เล่นได้มา แล้วก็ซื้อหอยเชลล์เทียม มาใส่บะหมี่กึ่งฯดู ปรากฎว่า เหมือนปูอัด แต่เค็มกว่า ไม่เห็นเหมือนหอยเชลล์เลย กินปูอัดยังว่าคล้ายปูอยู่

จบละการเดินทางของวันนี้ เดินทางทั้งวัน เหนื่อยมาก ถ้าอ่านจนจบฝากรบกวนฟีดแบกให้เป็นกำลังใจเพื่อจะได้เขียน EP ต่อไปด้วยนะครับ